วิศวกรสังคมตำบลบ้านยาง ได้จัดพัฒนาส่งเสริมสัมมาชีพ 15 ครัวเรือนยากจนสู่การสร้างรายได้อย่างมั่นคง

วิศวกรสังคมตำบลบ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม หนึ่งตำบลในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้จัดพัฒนาส่งเสริมสัมมาชีพ 15 ครัวเรือนยากจนสู่การสร้างรายได้อย่างมั่นคง กับ 6 กิจกรรม หวังสร้างรายได้ให้ครัวเรือนยากจน กับกิจกรรมเลี้ยงปลาดุก/การแปรรูปปลาดุก กิจกรรมแปลงผักพอเพียง/การแปรรูปผัก และกิจกรรมเพาะเห็ดฟาง/การแปรรูปเห็ดฟาง ระหว่างวันที่ 8 - 15 กันยายน 2564 ณ ชุมชนหมู่ 1 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยวันที่8-9 กันยายน จัดกิจกรรม การเลี้ยงปลาดุก วันที่ 10-11 กันยายน เป็นกิจกรรมแปลงผักพอเพียง วันที่ 12 กันยายน กิจกรรมเพาะเห็ดฟาง 13 กันยายน กิจกรรมแปรรูปปลาดุก 14 กันยายน กิจกรรมแปรรูปพริก และวันที่ 15 กันยายน เป็นกิจกรรมแปรรูปเห็ดฟาง โดยมีนายธีระยุทธ อ่อนทอง และนางสาวจิตรา ช่วยบางเดื่อ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ โดยมีคุณพรทวี พระวิวงค์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ


โดยผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตรการ ควบคุมโรคระบาด โควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข จ.สุราษฎร์ธานีอย่างเคร่งครัดอีกด้วย


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก u2t sru

รูปเพิ่มเติม

EVENT อื่นๆ

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อว.ได้จัดวางโรดแมปโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T เบื้องต้น โดยด้านการจ้างงาน เริ่มจ้างงาน 60,000 คน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564ที่ผ่านมา และประมาณ 15,000 คน เริ่มการพัฒนาทักษะการทำงานในด้านต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ ทั้งด้านการใช้เทคโนโลยี ด้านการเงิน ด้านภาษาอังกฤษ และด้านสังคม ซึ่งตามแผนงานจะได้รับการฝึกอบรมพัฒนาทักษะให้แล้วเสร็จภายใน ต.ค.2564 ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวอีกว่า ด้านกิจกรรมยกระดับเศรษฐกิจและสังคม แต่ละมหาวิทยาลัยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 ก.พ.2564 และจะทบทวน ปรับปรุงแผนเป็นระยะๆ ให้สอดรับกับความจำเป็นและความต้องการของชุมชน โดยแบ่งเป็นกิจกรรมด้านการพัฒนาสัมมาชีพ การพัฒนาการท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น โดยจะดำเนินการผ่านคนที่ได้รับการจ้างงานภายใต้การชี้แนะให้คำปรึกษาจาก ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ จะมีการดำเนินการแฮกกาธอน (HACKATHON) โดยให้ผู้ได้รับการจ้างงานนำโจทย์หรือปัญหาของชุมชนมาหาแนวทางในแก้ปัญหาผ่านกระบวนการแฮกกาธอน คาดจะเริ่มดำเนินการ มี.ค.นี้ และจะมีการแข่งขันกันเป็นระยะๆ โดยการแข่งขันในรอบสุดท้ายระดับประเทศ คาดจะจัดในเดือน พ.ย.2564 HTTPS://THAINEWS.PRD.GO.TH/TH/NEWS/DETAIL/TCATG210208162526521

“โครงการ U2T เป็นการช่วยเหลือลูกหลานชาวบ้าน 6 หมื่นคน ให้มีงานทำในภาวะวิกฤติโควิด-19 ขณะเดียวกัน จะสร้างคน 6 หมื่นคนด้วยทักษะใหม่ ให้เป็นคนที่จะมาพลิกโฉมประเทศไทย จาก 3 พันตำบล สู่อำเภอ สู่จังหวัดและทั่วทุกภูมิภาค” U2T เป็นโครงการจ้างงาน นักศึกษา บัณฑิตจบใหม่และประชาชน 60,000 คน ให้เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการสร้างงานและพัฒนาแก้ไขปัญหาและเศรษฐกิจของตำบลแบบพุ่งเป้า โดยดำเนินการ 1 ปี สำหรับโรดแม็ปของโครงการ U2T ขณะนี้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เริ่มพัฒนาทักษะการทำงานในด้านต่างๆผ่านระบบออนไลน์ ทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะด้านการเงิน ภาษาอังกฤษ และทักษะสังคม รวมทั้งทักษะเฉพาะด้านที่สอดคล้องกับงานพัฒนาชุมชน พร้อมๆกับการจัดทำข้อมูลชุมชน ข้อมูลตำบลใน 5 มิติ ได้แก่ สุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ และการเข้าถึงบริการภาครัฐ เพื่อวิเคราะห์ความเข้มแข็งหรืออ่อนแอของตำบลนั้นๆ ในการใช้ทำแผนการยกระดับเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะจัดเก็บลงในระบบการจัดเก็บข้อมูล หรือ DATA LAKE ผ่าน APPLICATION U2T ในมือถือ โดยข้อมูลจะมีทั้งด้านการท่องเที่ยว ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้านชุมชนเมืองของตำบล เป็นต้น HTTPS://WWW.THAIRATH.CO.TH/NEWS/LOCAL/2028517

นายศุภชัย กล่าวว่า ทั้งนี้นอกเหนือจากการทำข้อมูลประสิทธิภาพและศักยภาพตำบลแล้ว ยังจะมีการจัดเก็บข้อมูลชุมชนที่สะท้อนประสิทธิภาพและศักยภาพตำบล เพื่อจัดเก็บลงในระบบการจัดเก็บข้อมูล หรือ DATA LAKE ผ่าน APPLICATION U2T ในมือถือ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน มีนาคม 2564 ซึ่งจะจัดเก็บข้อมูลเป็นกลุ่ม อาทิเช่น กลุ่มข้อมูลด้านการท่องเที่ยว กลุ่มข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มข้อมูลด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม และกลุ่มข้อมูลด้านชุมชนเมือง ของตำบล เป็นต้น ทั้งนี้จะทำการจัดเก็บข้อมูลลง DATA LAKE ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ตุลาคมนี้ ส่วนด้านกิจกรรมยกระดับเศรษฐกิจและสังคมนั้น แต่ละมหาวิทยาลัยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ และจะมีการทบทวนและปรับปรุงแผนเป็นระยะๆให้สอดรับกับความจำเป็นและความต้องการของชุมชน โดยกิจกรรมต่างๆนั้น จะแบ่งเป็นกรอบใหญ่ๆ เช่น กิจกรรมในด้านการพัฒนาสัมมาชีพ การพัฒนาการท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น โดยกิจกรรมในการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมนี้ จะดำเนินการผ่านคนที่ได้รับการจ้างงานภายใต้การชี้แนะให้คำปรึกษาจาก ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการในมหาวิทยาลัย “นอกจากนี้ภายใต้ U2T มหาวิทยาลัยสู่ตำบล จะมีการดำเนินการที่เรียกว่าแฮกกาธอน (HACKATHON) โดยให้ผู้ได้รับการจ้างงานจะนำโจทย์หรือปัญหาของชุมชนมาหาแนวทางในแก้ปัญหาผ่านกระบวนการแฮกกาธอน ซึ่งคาดว่าเริ่มดำเนินการในเดือน มี.ค.นี้ และจะมีการแข่งขันกันเป็นระยะๆ และการแข่งขันในรอบสุดท้ายระดับประเทศ คาดว่าจะจัดในเดือนพฤศจิกายน 2564” รองปลัด อว.กล่าว HTTPS://WWW.THAIPOST.NET/MAIN/DETAIL/92386

อว.ส่ง 60,000 นักศึกษา-ประชาชนลงพื้นที่ทำงานกับชุมชน 3,000 ตำบล พร้อม 76 มหาวิทยาลัย เก็บข้อมูลทำบิ๊กดาต้าให้ประเทศ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รมว.อว.ลั่นพามหาวิทยาลัยออกจากหอคอยงาช้างแล้ว เตรียมขอ ครม. อีก 4,900 ตำบลให้ครบ 7,900 ตำบลทั่วประเทศ รมว.อว. กล่าวต่อว่า โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล มีเป้าหมาย 3 ประการ ประการแรก พัฒนาคน โครงการนี้ถือเป็นครั้งแรกประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย อาจารย์มหาวิทยาลัย นักศึกษาและประชาชนลงไปทำงานชุมชนพร้อมกัน เพราะฉะนั้นเดือนแรกต้องรีบทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทันที เมื่อจะรบแล้วต้องชนะ เพราะสิ่งที่ อว.จะดำเนินการต่อก็คือการนำเสนอ ครม. เพื่อให้เกิดการจ้างงานในอีก 4,900 ตำบล ซึ่งจะทำให้มีนักศึกษา ประชาชน และอาจารย์มหาวิทยาลัยลงไปทำงานทุกตำบลทั่วประเทศ คือ 7,900 ตำบล ประการที่ 2 การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อทำบิ๊กดาต้าของประเทศ ซึ่งแต่ละกระทรวงก็ฝากให้ อว.ช่วยไปดำเนินการ และประการที่ 3 เราไม่สนใจแค่ว่านักศึกษาได้ทำงานแต่สนใจว่านักศึกษาจะได้รับการฝึกทักษะเพิ่มขึ้น มีมุมมองและวิธีคิดที่ทันสมัย เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะทักษะในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัล การเงิน การลงทุน ภาษาและสังคม HTTPS://WWW.DAILYNEWS.CO.TH/ARTICLE/822640

Loading...